นายอำเภอคีรีมาศเร่งติดตามสถานการณ์หลังพบผู้ป่วยโควิดในพื้นที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยง
              ว่าที่ร้อยตรีบัญหาร บุญมี นายอำเภอคีรีมาศ พร้อมด้วย ดร.ชุมพล นุชผ่อง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคีรีมาศ นายวิชาญ มีเครือรอด สาธารณสุขอำเภอคีรีมาศ พันตำรวจเอกบุญเสริม สิทธิถาวร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคีรีมาศ ประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด – 19 พร้อมกับหารือแนวทางดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากพบผู้ป่วยรายหนึ่งไม่แจ้งข้อมูลความเสี่ยงของตัวเองอย่างเพียงพอจนเป็นเหตุให้บุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงติดเชื้อคิด – 19  
             สำหรับข้อมูลผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศชายอายุ 74 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ มีประวัติไปร่วมงานศพญาติที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ต่อมาในวันที่ 26 ญาติโทรแจ้งว่ามีผู้ที่ไปร่วมงานศพเดียวกันติดโรคโควิด – 19 จำนวน 5 คน ต่อมาวันที่ 27 เริ่มมีอาการไข้จึงเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลพัฒนเวช ได้รับยากลับบ้านแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลคีรีมาศในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่ทำการซักประวัติจากผู้ป่วยและญาติเพื่อประเมินความเสี่ยง ผู้ป่วยและญาติตอบเพียงการไปร่วมงานศพแต่ไม่ได้แจ้งข้อมูลว่าหลังจากเสร็จงานศพแล้วพบผู้ไปร่วมงานศพเดียวกันติดเชื้อโควิด – 19  ต่อมาผู้ป่วยมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ แพทย์จึงทำการตรวจเพิ่มเติมพบปอดอักเสบ จึงส่งตัวไปโรงพยาบาลสุโขทัยในวันที่ 5 เพื่อทำการตรวจโควิด – 19 ด้วยวิธี RT-PCR ผลการตรวจเป็นบวก 
             จากเหตุการณดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคีรีมาศมีความเสี่ยงสูงจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยขณะรับการรักษา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคีรีมาศจึงให้ทำการกักตัวพยาบาลจำนวน 7 คน โดยหนึ่งในนั้นกำลังตั้งครรภ์และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ดังนั้นทางอำเภอคีรีมาศจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามประกาศจังหวัดสุโขทัยเรื่องมาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 39 โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอาจต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
             นายอำเภอคีรีมาศกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้สั่งการไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง ให้เร่งประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด – 19 ในทุกประเด็นอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้หากพบผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ธนกฤต มาตรแม้น งานข่าวและรายการ สวท.สุโขทัย